ข่าวสารและกิจกรรม

24 พ.ค. 2560

กลุ่มบริษัทเอสซี เดินหน้าโครงการท่อส่งน้ำมันอีสาน คาดเสร็จปี 65

        ไทย ไปป์ไลน์ฯ ในเครือเอสซี กรุ๊ป ลงนามความร่วมมือกับแทปไลน์เพื่อเชื่อมต่อท่อขนส่งน้ำมันที่สระบุรีรองรับโครงการขยายระบบท่อไปภาคอีสาน คาดแล้วเสร็จปี 65 เงินลงทุน 1.2 หมื่นล้านบาท

       นายณัฐพงษ์ รัตนสุวรรณทวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเอสซี กรุ๊ป เปิดเผยว่า วันนี้บริษัทได้ลงนามสัญญาความร่วมมือ (MOU) ร่วมกับบริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด (แทปไลน์) เพื่อเชื่อมต่อท่อขนส่งน้ำมันของแทปไลน์ที่ จ.สระบุรี รองรับการดำเนินโครงการขยายระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่บริษัทเป็นผู้ดำเนินการในส่วนต่อขยายดังกล่าว ซึ่งล่าสุดมีความคืบหน้าในส่วนของการออกแบบระบบท่อขนส่งน้ำมันแล้วเสร็จเรียบร้อย เหลือเพียงส่วนของคลังน้ำมันที่ต้องมีการปรับแบบเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับพื้นที่ก่อสร้างจริง

       ขณะที่การจัดทำรายงานผลการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ก็ได้เริ่มเข้าแนะนำโครงการและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ที่เส้นทางท่อจะวางผ่าน เช่น ผู้ว่าราชการจังหวัด พลังงานจังหวัด ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และตระหนักถึงประโยชน์ของโครงการที่จะนำไปสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค การจ้างแรงงานในท้องถิ่น

       พร้อมกันนี้ ทางบริษัทยังได้ประสานกับหน่วยงานของแต่ละจังหวัดเพื่อจัดกิจกรรมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โดยคาดว่าจะใช้เวลาในส่วนของการจัดทำรายงานผลการวิเคราะห์ประมาณ 15-18 เดือน และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปี 62 แล้วเสร็จภายในปี 65 คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 1.2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นเงินลงทุนคลังน้ำมัน 4 พันล้านบาท และเงินลงทุนท่อ 8 พันล้านบาท

       นอกจากการดำเนินการเตรียมความพร้อมด้านการก่อสร้างแล้ว บริษัทยังได้เข้าหารือกับกรมศุลกากร กรมสรรพสามิต และสถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยเพื่อหาแนวทางการส่งเสริมปริมาณน้ำมันส่งออกทางท่อในภูมิภาค เช่น เขตปลอดภาษีอากรหรือการขยายจุดจัดเก็บภาษี (Tax Point) ปลายท่อ เพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางพลังงานของภูมิภาค

        ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าความต้องการใช้น้ำมันในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือปัจจุบันอยู่ที่ 2.7 พันล้านลิตร/วัน และคาดว่าความต้องการใช้น้ำมันจะเติบโตขึ้นเป็น 3.3 พันล้านลิตร/ปีในอีก 10 ปีข้างหน้า

        อนึ่ง โครงการท่อส่งน้ำมันเส้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้นจะเป็นการต่อขยายจากระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อเดิมของแทปไลน์ ที่คลังน้ำมัน อ.เสาไห้ จ.สระบุรี และมีคลังน้ำมันปลายทางที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เป็นระยะทาง 350 กิโลเมตร ใช้ท่อน้ำมันขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 16 นิ้ว

        นายณัฐพงษ์กล่าวอีกว่า บริษัทยังมีแผนขยายท่อส่งน้ำมันไปยัง สปป.ลาว และจีนตอนใต้ ปัจจุบันประเทศไทยมีการส่งออกน้ำมันทางรถบรรทุกไปยัง สปป.ลาว อีกทั้ง สปป.ลาวมีการส่งออกน้ำมันต่อไปยังประเทศจีนตอนใต้ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าหารือกับผู้ค้าน้ำมันทั้งภายในประเทศและต่างประเทศเพื่อนำเสนอโครงการและข้อมูลเชิงพาณิชย์ที่เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ค้าน้ำมันจาก สปป.ลาวและประเทศจีนที่มีความสนใจโครงการของบริษัท ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือรายละเอียดเพื่อนำไปสู่การลงนามบันทึกข้อตกลงในเร็วๆ นี้

       ในส่วนของการศึกษาขยายการลงทุนใน สปป.ลาว ได้มีการเซ็น MOU เบื้องต้นไปแล้ว คาดว่าจะมีความชัดเจนโครงการลงทุนภายในไตรมาส 3/60 ขณะที่การขยายท่อส่งน้ำมันไปยังจีนอยู่ระหว่างขั้นตอนการศึกษารายละเอียดลงนาม MOU กับบริษัทน้ำมันรัฐวิสาหกิจของจีนต่อไป

ที่มา : http://www.manager.co.th

วันที่ 23 พฤษภาคม 2560 เวลา 19.28 น.