ไทย ไปป์ไลน์ฯ ในเครือเอสซี กรุ๊ป
ลงนามความร่วมมือกับแทปไลน์เพื่อเชื่อมต่อท่อขนส่งน้ำมันที่สระบุรีรองรับโครงการขยายระบบท่อไปภาคอีสาน
คาดแล้วเสร็จปี 65 เงินลงทุน 1.2 หมื่นล้านบาท
นายณัฐพงษ์ รัตนสุวรรณทวี กรรมการผู้จัดการ
บริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเอสซี กรุ๊ป เปิดเผยว่า
วันนี้บริษัทได้ลงนามสัญญาความร่วมมือ (MOU) ร่วมกับบริษัท
ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด (แทปไลน์) เพื่อเชื่อมต่อท่อขนส่งน้ำมันของแทปไลน์ที่
จ.สระบุรี
รองรับการดำเนินโครงการขยายระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ที่บริษัทเป็นผู้ดำเนินการในส่วนต่อขยายดังกล่าว
ซึ่งล่าสุดมีความคืบหน้าในส่วนของการออกแบบระบบท่อขนส่งน้ำมันแล้วเสร็จเรียบร้อย เหลือเพียงส่วนของคลังน้ำมันที่ต้องมีการปรับแบบเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับพื้นที่ก่อสร้างจริง
ขณะที่การจัดทำรายงานผลการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม
(EIA) ก็ได้เริ่มเข้าแนะนำโครงการและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ที่เส้นทางท่อจะวางผ่าน
เช่น ผู้ว่าราชการจังหวัด พลังงานจังหวัด ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
และตระหนักถึงประโยชน์ของโครงการที่จะนำไปสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค
การจ้างแรงงานในท้องถิ่น
พร้อมกันนี้
ทางบริษัทยังได้ประสานกับหน่วยงานของแต่ละจังหวัดเพื่อจัดกิจกรรมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน
โดยคาดว่าจะใช้เวลาในส่วนของการจัดทำรายงานผลการวิเคราะห์ประมาณ 15-18 เดือน และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปี 62 แล้วเสร็จภายในปี 65 คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 1.2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นเงินลงทุนคลังน้ำมัน 4 พันล้านบาท และเงินลงทุนท่อ 8 พันล้านบาท
นอกจากการดำเนินการเตรียมความพร้อมด้านการก่อสร้างแล้ว
บริษัทยังได้เข้าหารือกับกรมศุลกากร กรมสรรพสามิต
และสถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยเพื่อหาแนวทางการส่งเสริมปริมาณน้ำมันส่งออกทางท่อในภูมิภาค
เช่น เขตปลอดภาษีอากรหรือการขยายจุดจัดเก็บภาษี (Tax Point) ปลายท่อ
เพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางพลังงานของภูมิภาค
ทั้งนี้
บริษัทคาดว่าความต้องการใช้น้ำมันในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือปัจจุบันอยู่ที่ 2.7 พันล้านลิตร/วัน และคาดว่าความต้องการใช้น้ำมันจะเติบโตขึ้นเป็น 3.3 พันล้านลิตร/ปีในอีก 10 ปีข้างหน้า
อนึ่ง
โครงการท่อส่งน้ำมันเส้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้นจะเป็นการต่อขยายจากระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อเดิมของแทปไลน์
ที่คลังน้ำมัน อ.เสาไห้ จ.สระบุรี และมีคลังน้ำมันปลายทางที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น
เป็นระยะทาง 350 กิโลเมตร
ใช้ท่อน้ำมันขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 16 นิ้ว
นายณัฐพงษ์กล่าวอีกว่า
บริษัทยังมีแผนขยายท่อส่งน้ำมันไปยัง สปป.ลาว และจีนตอนใต้
ปัจจุบันประเทศไทยมีการส่งออกน้ำมันทางรถบรรทุกไปยัง สปป.ลาว อีกทั้ง
สปป.ลาวมีการส่งออกน้ำมันต่อไปยังประเทศจีนตอนใต้
ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าหารือกับผู้ค้าน้ำมันทั้งภายในประเทศและต่างประเทศเพื่อนำเสนอโครงการและข้อมูลเชิงพาณิชย์ที่เป็นประโยชน์
โดยเฉพาะกลุ่มผู้ค้าน้ำมันจาก สปป.ลาวและประเทศจีนที่มีความสนใจโครงการของบริษัท
ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือรายละเอียดเพื่อนำไปสู่การลงนามบันทึกข้อตกลงในเร็วๆ นี้
ในส่วนของการศึกษาขยายการลงทุนใน สปป.ลาว
ได้มีการเซ็น MOU เบื้องต้นไปแล้ว
คาดว่าจะมีความชัดเจนโครงการลงทุนภายในไตรมาส 3/60 ขณะที่การขยายท่อส่งน้ำมันไปยังจีนอยู่ระหว่างขั้นตอนการศึกษารายละเอียดลงนาม MOU กับบริษัทน้ำมันรัฐวิสาหกิจของจีนต่อไป
ที่มา : http://www.manager.co.th
วันที่ 23 พฤษภาคม 2560 เวลา 19.28 น.